ข้อพิพาทกับโซกา งัคไค ของ พระนิตตะสึ

โซกา งัคไค เป็นสมาคมผ้นับถือที่ใหญ่ที่สุดของนิกายนิชิเรนโชชูในสมัยนั้น ซึ่งต่อมาได้โดนควำบาตรออกจากศาสนาในปี ค.ศ. 1991 โดยสมเด็จพระสังฆราชนิคเค่น โชนิน โดยได้ให้เหตุผลว่า ประธานของสมาคม และผู้นำระดับสูง มีความเชื่อที่บิดเบือน และสอนหลักธรรมที่บิดเบือน ไปจากความเชื่อที่ถูกต้องดั้งเดิม

โดยพระนิทตัตสุ โชนิน ได้มีกล่าวดังนี้ในที่ประชุม ในการประชุมกลุ่มฮอกเคะโขะ ในเมษายน ปี ค.ศ. 1947 ที่วัดไทเซขิจิ

อาตมาได้ยินมาว่าในกลุ่มผู้นับถือกลุ่มหนึ่ง ได้มีการพูดถึงเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพระพุทธะแท้จริงองค์ใหม่ หากรายงานที่อาตมาได้รับเป็นความจริง บุคคลที่เอ่ยอ้างดังกล่าวก็กำลังไม่ได้ปฏิบัติธรรมและนับถือนิชิเรนโชชู และจะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น ผู้นับถือนิชิเรนโชชู อีกต่อไป หากมีบุคคลใดสอนหลักธรรมที่บิดเบือน อาตมาอยากจะให้สมาชิกฮอกเคโขะ(ผู้นับถือทั่วโลก) หยุดย้งการกระทำดังกล่าวทุกวิธีทาง โปรดเข้าใจว่านี่คือภารกิจของฮอกเคะโขะ

ในจังหวัดวะคะยะมะ มีบางคนได้พูดกับสมาชิกในกลุ่มว่า "เราไม่ต้องการอะไรนอกจากโงะฮนซน การสืบสายเลือดแห่งธรรมเป็นเรื่องไม่จำเป็น" ความคิดประเภทนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ใครกันเป็นผู้จารึกโงะฮนซนซึ่งพวกเขาได้บอกว่าตนเองต้องการ ในนิชิเรนโชชู โงะฮนซนจะไม่สามารถถูกจารึกหรือผลิตโดยผู้ที่ไม่ได้รับสายเลือดแห่งธรรม หากเป็นดังที่พวกเขากล่าวว่า การสืบสายเลือดแห่งธรรมเป็นเรื่องไม่จำเป็นแล้ว เช่นกันเราก็ควรจะสามารถรับโงะฮนซนจากนิชิเรนชูสายมิโนบุ ซึ่งทุกคนสามารถสร้างโงะฮนซน อาตมานึกถึกการโต้วาทีธรรมโอตารุ ที่พระสงฆ์จากมิโนบุกล่าวว่า "โงะฮนซนสามารถถูกจารึกโดยใครก็ได้" อาตมาได้ประหลาดใจและคิดในใจว่า "คุณพูดอะไรกัน ?" ถ้าหากเป็นเรื่องจริงตามที่กล่าว เราก็สามารถมี เจ้าอาาสจากวัด ฮิะชิฮนกันจิ หรือ นิชิฮนกันจิ จารึกโงะฮนซน และบูชาอย่างสุดซึ้งได้อย่างน้นหรือ ?

ในโซกางัคไคมีการกล่าวและสอนว่า ผู้นับถือฆราวาสศึกษาด้วยตนเองและทำการเผยแผ่ธรรมด้วยความสมัครใจ หรือที่พวกเขาเรียกว่าผู้ศรัทธาในความสามัคคี เราจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง และเมื่อพวกเขากล่าวว่าไมต้องการพระสงฆ์ ก็เหมือนกับการกล่าวว่าพวกเขาเป็นพระสงฆ์ หากเราซึ่งได้เข้าเป็นพระสงฆ์ไม่มีความจำเป็นดังที่พวกเขากล่าว ผู้นับของโซกางัคไคจะสร้างตนเองเป็นพระสงฆ์กลุ่มต่อไป คำกล่าวของโซกางัคไคล้วนแต่จะทำลายความเป็นจริง..

พวกเรา พระสงฆ์ไม่เคยมีเจตนาที่จะทำลายโซกางัคไค หรือ องค์กรต่างๆ แต่ในขณะนี้ โซกางัคไคได้มีความเข้าใจที่ผิดพลาดเกี่ยวกับคำสอนของนิชิเรนโชชู และการเบี่ยนเบนของพวกเขาได้ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ การที่อาตมากล่าวเช่นนี้ก็เพราะอาตมาต้องการให้โซกางัคไค แก้ไขข้อผิดพลาดของตนเอง และกลับมามีความศรัทธาที่เข้มแข็งถูกต้องดังเช่นในตอนแรก เป็นเรื่องจริงว่าในเวลาหลายปีที่ผ่านมา โซกางัคไคได้อุทิศตนเองเพื่อสนับสนุนพระสงฆ์อย่างมาก การสนับสนุนของพวกเขานั้นมีความหมายยิ่งนัก แม้จะมีการสนับสนุนที่มากมายมหาศาลก็ตาม หากพวกเขามีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับคำสอนของนิชิเรนโชชู และเบี่ยนเบนจากคำสอนที่ถูกต้องแล้ว สิ่งเหล่านี้จะทำให้ ความพยายามของพวกเขาทั้งหมดสูญเปล่า

(กล่าวในการประชุมเมียวคันไค ครั้งที่ 18 วันที่ 31 มีนาคม 1979 )

นายโจเซอิ โทดะ (ประธานคนที่ 2 ของโซกางัคไค) ได้จากโลกนี้ไป ไดเคะโจ และ หอรับรองกลางได้เสร็จสิ้น ในปี ค.ศ. 1972 โชฮนโดะ ได้ถูกสร้างและในทันทีหลังจากนั้น โซกางัคไค ได้เริ่มที่จะกระทำการแปลกๆ พวกเขาได้บิดเบือนคำสอนอย่างร้ายแรง และได้ดูแคลนพระสงฆ์ ทุกๆครั้งที่อาตมาสังเกตจุดนี้ อาตมาได้พยายามที่จะยกประเด็นมาบอกว่า "สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้นมันผิด และต่างจากคำสอนของนิชิเรนโชชูโดยสิ้นเชิง"

(ในการประชุมพิจารณาเหตุการณ์ปัจจุบัน ครั้งที่ 1 วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1978)

เฉพาะเมื่อคำสอนของนิชิเรนโชชูได้ถูกเผยแผ่ตลอดทั้งโลกแล้ว จึงจะเรียกได้ว่าคือ โคเซ็นรุฝุ หากหลักธรรมที่แตกต่างจากนิชิเรนโชชูถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก สิ่งนี้จะไม่เรียกว่าโคเซ็นรุฝุ หากคำสอนที่ไม่ใช่คำสอนของนิชิเรนโชชู หรือคำสอนของพระนิชิเรนไดโชนิน ถูกเผยแผร่ไปทั่วโลกแล้วนั้น พวกเราไม่ควรจะยินดีต่อการกระทำดังกล่าว อาตมาเชื่อว่า พระนิชิเรนไดโชนิน จะยินดีกับเรื่องดังกล่าวได้หรือ เพราะนั่นหมายความว่าจิตวิญญาณของนิชิเรนโชชูได้สูญหายไปแล้ว ?

(กล่าว ณ พิธีเปิดศูนย์ศึกษาฟูจิกะคุริน 18 มิถุนายน 1974)

อย่างไรก็ตาม พระนิทตัตสุ โชนิน นั้นเป็นพระสังฆราชที่ได้รับความเคารพนับถือจากสมาชิกโซกา งัคไค เป็นอย่างมาก